Author name: admin

ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนได้รับเชิญให้เป็น Keynote Speaker ในงานประชุมวิชาการ International Conference on Business Sustainability and Innovative Management ณ National Pingtung University, Taiwan

      เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน รศ ดร จรรยา ชาญชัยชูจิตได้เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการ International Conference on Business Sustainability and Innovative Management จัดโดย National Pingtung University, Taiwan และได้เป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “Empowering Sustainable Futures: Education’s Role in driving Decarbonization and Global Collaborations” 
      ในการบรรยายครั้งนี้ รศ. ดร. จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้นำเสนอกรณีศึกษาของความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา (Academic) โดยเฉพาะบทบาทในงานด้านวิจัย (Research) และการเรียนรู้รูปแบบใหม่ๆ (Flexible Mode of Learning) ผ่านการทำงานร่วมกับภาคเอกชน (Private Sector) และ Stakeholder อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) โดยได้ยกตัวอย่าง 2 โครงการวิจัยของนักวิจัยจากศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน โครงการที่ 1 โครงการพัฒนา Net Zero Emissions Execution Roadmap and Tools เพื่อขับเคลื่อนการเป็นผู้ให้บริการไปรษณีย์และโลจิสติกส์อย่างยั่งยืน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ โครงการที่ 2 โครงการลดการปล่อยคาร์บอนของบริษัท SCGJWD Logistics ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และ ร่วมทุนวิจัยโดย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ บริษัท SCGJWD Logistics โดยทั้งสองโครงการมีเป้าหมายเดียวกันคือการขับเคลื่อนการลดการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซี่ยน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกและเป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลก 
      รศ. ดร. จรรยา ชาญชัยชูจิตได้แสดงให้เห็นว่าสถาบันการศึกษาสามารถเป็น Platform ที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ (Educate and empower) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการสร้างนวัตกรรม (Foster Innovation) ผ่านการทำวิจัย (Research), การสร้างความร่วมมือ (Foster Collaboration) ผ่านเครือข่าย (Network and Engagement) และ การสร้างวัฒนธรรมในการตระหนักรู้ต่อแนวคิดด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Foster the Culture of Sustainability) ผ่านการอบรมและการทำกิจกรรมต่างๆ (Training, Workshop and Dialogue discussion) ร่วมกับภาคเอกชนได้จากโครงการวิจัยทั้ง 2 โครงการที่กล่าวมา
      นอกจากนี้ รศ. ดร. จรรยา ชาญชัยชูจิต ยังได้ยกตัวอย่างทักษะใหม่ที่จำเป็นสำหรับอุตสาหรรมขนส่งและโลจิสติกส์ (New skills for the management of logistics decarbonization) เช่น ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (The appreciation of Climate Science), การวิเคราะห์และการบริหารจัดการกระบวนการที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Understanding GHG Process in Logistics), การจัดทำและการทวนสอบรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Measurement, Reporting and Verification of Logistics GHG Emissions) เป็นต้น 
      รศ. ดร. จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้สรุปการบรรยายและฝากประเด็นทิ้งท้ายไว้ว่า “Sustainable can be driven by research and apply to university practices to create impacts by engage and connect staff and students with university sustainable projects” 

== 𝐖𝐞 𝐚𝐢𝐦 𝐭𝐨 𝐭𝐮𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐬𝐞𝐚𝐫𝐜𝐡 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐥-𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐬𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬 ==

ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนเข้าร่วมงาน LogiMAT-LogiSYM 2024 Cold Chain Thailand 2024

      รศ. ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เข้าร่วมงาน LogiMAT-LogiSYM 2024 Cold Chain Thailand 2024 ณ BITEC บางนา กรุงเทพฯ ในระหว่างวันที่ 16-17 ตุลาคม พ.ศ.2567 และ ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “Driving Low-Carbon Transformation in Freight Transport: Measuring, Reducing and Optimizing Emissions” และ เสวนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนจากภาคธุรกิจจากประเทศสิงคโปร์ ในหัวข้อ Operationalizing Sustainability in Thailand : What’s driving change and How to lead it. 
      ในช่วงการบรรยายในหัวข้อ “Driving Low-Carbon Transformation in Freight Transport: Measuring, Reducing and Optimizing Emissions” รศ ดร จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้นำเสนอข้อมูลผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการขนส่งสินค้าที่สูงถึง 8-10% ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยทั้งหมดทั่วโลก (Global GHG Emissions) และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกโดยมีการประมาณการว่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากการขนส่งและโลจิสติกส์จะเพิ่มขึ้นประมาณ 45% ภายในปี 2050 โดยเฉพาะจากการขนส่งสินค้าทางถนน (Road Freight) ที่มีสัดส่วนปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงที่สุด 67% ตามด้วยการขนส่งทางเรือ (Sea Freight) 21% ทางอากาศ (Air Freight) 5% ทางราง (Rail Freight) 5% และ ทางเรือชายฝั่ง (Inland Waterways) ประมาณ 2% ตามลำดับ ประกอบกับแรงกดดันจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์จึงจำเป็นต้องมีมาตรการและแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะแผนงานการขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) จากอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ทั้งในระดับองค์กรและระดับประเทศ นอกจากนี้ รศ ดร จรรยา ชาญชัยชูจิต ยังได้แนะนำมาตรฐาน ISO 14083:2023 Greenhouse Gases – Quantification and reporting of greenhouse gas emissions arising from transport chain operations และ GLEC ( Global Logistics Emissions Council ) Framework สำหรับการคำนวณการรายงานผลและการทวนสอบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่งและกิจกรรมโลจิสติกส์ (Transport and Logistics Emissions Measurement Reporting and Verification) ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติรวมถึงกลยุทธ์และแนวทางต่างๆ ในการลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งและโลจิสติกส์ เช่น Load factor optimization, Network restructuring, Fleet renewal/optimization , Modal Switch และ Alternative fuel 
          ในส่วนของการเสวนาหัวข้อ Operationalizing Sustainability in Thailand : What’s driving change and How to lead it. มีผู้ร่วมสนทนา 3 ท่านดังนี้ 1) Mr. James Yin – CEO and Co-Founder V Plus Agri Tech Pte. Ltd, Singapore 2) Mr. Brett Marshall – Editor LogiSYM Magazine and Former Vice President Zuellig Pharma Singapore และ 3) รศ. ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมี Ms. Stephanie Krishnan – Associate Vice President Manufacturing, Retail and Energy Insights IDC Asia Pacific เป็นผู้ดำเนินการสนทนา โดยประเด็นหลักในการเสวนา นี้จะพูดถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซัพพลายเชนในประเทศไทยมุ่งสู่ความยั่งยืน ทั้งประเด็นเรื่องกฎหมาย กฎระเบียบใหม่ๆ (Regulations) ความคาดหวังและความต้องการของผู้บริโภค (Customer Requirements) ที่เปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่กระตุ้นให้ธุรกิจต่างๆ ปรับใช้แนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งในอนาคตการลดการปล่อยคาร์บอนจะกลายเป็น KPI หลักขององค์กร ในการเสวนาผู้ร่วมเสวนาทุกท่านมีความเห็นตรงกันว่าการขับเคลื่อนความยั่งยืนขององค์กรต้องเริ่มที่ผู้นำ (Leadership) โดยผู้นำด้านความยั่งยืนในซัพพลายเชนต้องมีวิสัยทัศน์ระยะยาวสนับสนุนความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดเพื่อทำให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืน ในส่วนประเด็นด้านความท้าทาย (Challenges) ทั้งด้านค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นความซับซ้อนในซัพพลายเชนและการต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงอาจจะแก้ไขโดยเริ่มต้นด้วยโครงการนำร่องขนาดเล็ก (Sandbox) ก่อนแล้วค่อยขยายผลในขนาดที่ใหญ่ขึ้นสุดท้ายความร่วมมือกับพันธมิตร (Collaborations) ธุรกิจจำเป็นต้องร่วมมือกับซัพพลายเออร์และลูกค้าเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ในการเสวนานี้วิทยากรทุกท่านได้เน้นให้ผู้ร่วมงานเห็นความสำคัญของการดำเนินธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนในซัพพลายเชน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว (Long term Competitive Advantage)

== 𝐖𝐞 𝐚𝐢𝐦 𝐭𝐨 𝐭𝐮𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐬𝐞𝐚𝐫𝐜𝐡 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐥-𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐬𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬 ==

ESG Symposium 2024 Driving Inclusive Green Transition ยิ่ง “เร่งเปลี่ยน” ยิ่ง “เร่งโอกาส”

    • Date: 30 กันยายน พ.ศ. 2567
    • Venue: ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร
    • Organizer: บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด มหาชน
    • Link Session Speaker: https://www.facebook.com/share/v/M7JPGw9eFSkxSaAi/

 

    รศ.ดร จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรในการเสวนาหัวข้อ “ปัจจัยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำของประเทศไทย – The Key Drivers for Inclusive Green Transition” ในงาน ESG Symposium 2024 Driving Inclusive Green Transition ยิ่ง “เร่งเปลี่ยน” ยิ่ง “เร่งโอกาส” เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ สำหรับการเสวนาหัวข้อ “The Key Drivers for Inclusive Green Transition” ประกอบด้วยวิทยากรเสวนา 5 ท่านในหัวข้อต่างๆ ดังนี้ 1. คุณ บัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี หัวข้อ Saraburi Sandbox โมเดลต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย 2. คุณ ปฏิญญา ศีลสุภดล ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน บริษัท เต็ตตรา แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด หัวข้อ Circular Economy การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนให้คุ้มค่าสูงสุด 3. คุณ แสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย หัวข้อ Just Transition การสนับสนุนทรัพยากรให้แก่ภาคส่วนต่างๆ ที่อยู่ในกระบวนการเปลี่ยนผ่าน 4. คุณ สุชัย กอประเสร็จศรี นายกสมาคมอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษไทย หัวข้อ Sustainable Packaging Value Chain การจัดการ Packaging ทั้งระบบอย่างยั่งยืน และ 5. รศ.ดร จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หัวข้อ Technology for Decarbonization การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดย รศ.ดร จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้กล่าวว่า Technology for Decarbonization จะเป็น Fast Track ที่สำคัญในการผลักดันการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Green transition) ให้เร็วขึ้น โดยในการเปลี่ยนผ่านนี้ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการปลดล็อคข้อจำกัดทางกฎหมาย และ ความชัดเจนในนโยบายเพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด (Clear Regulations and Policies) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ( Infrastructure Development) ร่วมกับ การสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Green Finance) และการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีไปใช้ (Adoption and Scale Up) และการพัฒนาความพร้อมของคนและแรงงานที่เกี่ยวข้อง (Capacity Building)

      โดยรายละเอียดข้อเสนอแนะจากจากเวทีเสวนา และ การระดมสมองในการเตรียมงานช่วง pre-session ต่างๆ ได้ถูกรวบรวมและสรุปใน White Paper จากผู้จัดงาน (บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด มหาชน) และได้ส่งมอบให้ท่านนายกรัฐมนตรีในงาน ESG Symposium 2024 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยมีข้อสรุปหลักๆ 4 ข้อ ดังนี้ 1. ปลดล็อคกฎหมาย เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ 2. ผลักดันการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว 3. พัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว 4. สนับสนุน SMEs เพื่อเสริมสร้างสักยภาพการแข่งขัน เพื่อมุ่งเปลี่ยนผ่านสู่ “พลังงานสะอาด” และ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” โดยใช้สระบุรีแซนด์บ็อกซ์ เป็น พื้นที่ทดลอง

      ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พร้อมร่วมขับเคลื่อน Green Transition นี้ภายใต้โครงการวิจัยเรื่องการขับเคลื่อนการลดการปล่อยคาร์บอนของบริษัท SCGJWD Logistics ที่ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ประจำปีงบประมาณ 2567 และมี บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทเอกชนผู้ร่วมทุนซึ่งผลลัพธ์จากงานวิจัยจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ – Driving Inclusive Green Transition ยิ่ง “เร่งเปลี่ยน” ยิ่ง “เร่งโอกาส”-

      สามารถรับชม live ย้อนหลัง หัวข้อ “The Key Drivers for Inclusive Green Transition” ปัจจัยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำของประเทศไทย ได้ในเวลาประมาณ 3.11.00 ได้ที่ https://www.facebook.com/share/v/M7JPGw9eFSkxSaAi/

== 𝐖𝐞 𝐚𝐢𝐦 𝐭𝐨 𝐭𝐮𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐬𝐞𝐚𝐫𝐜𝐡 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐥-𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐬𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬 ==

Technology for Decarbonization สำคัญอย่างไร ถ้าเราจะไปให้ถึงสังคมคาร์บอนต่ำ ?

  • Date: 11 กันยายน พ.ศ. 2567
  • Venue: ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร
  • Organizer: บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด มหาชน
  • More information about the event: https://youtu.be/8vnGZ–B1nk?si=i5vMgR1WXMkRJu0N

      รศ.ดร จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เข้าร่วม workshop pre-session สำหรับงาน ESG Symposium 2024 ในหัวข้อ นวัตกรรมเพื่อพลังงานสะอาดสู่อนาคตยั่งยืน (Technology for Decarbonization) เพื่อจัดทำข้อเสนอนโยบายการผลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศไทยและภูมิภาค ASEAN ในประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น นโยบายทางกฎหมาย การสนับสนุนทางการเงิน เพื่อปลดล็อคข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดย pre-session ของหัวข้อนวัตกรรมเพื่อพลังงานสะอาดสู่อนาคตยั่งยืน (Technology for Decarbonization) ประกอบด้วย 3 ประเด็นย่อยในการระดมสมอง ดังนี้ 1) การขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน (Accelerating Energy Transition with Innovation) 2) การพัฒนาการคมนาคมและขนส่งสีเขียวด้วยนวัตกรรม (Transforming Transport and Logistics with Innovation) และ 3) การเพิ่มศักยภาพของอุตสาหกรรมชีวพลังงานและเคมีจากชีวภาพ (Expanding Bio-Based Chemical and Fuels) โดยมี stakeholder ที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนเข้าร่วม โดยได้ข้อสรุปร่วมกันว่า Technology for Decarbonization จะเป็น Fast Track ที่สำคัญในการผลักดันการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Green transition) ให้เร็วขึ้น โดยในการเปลี่ยนผ่านนี้ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการปลดล็อคข้อจำกัดทางกฎหมาย และ ความชัดเจนในนโยบายเพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด (Clear Regulations and Policies) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ( Infrastructure Development) ร่วมกับ การสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Green Finance) และการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีไปใช้ (Adoption and Scale Up) และการพัฒนาความพร้อมของคนและแรงงานที่เกี่ยวข้อง (Capacity Building) โดยรายละเอียดข้อเสนอแนะจาก pre-session หัวข้อนวัตกรรมเพื่อพลังงานสะอาดสู่อนาคตยั่งยืน (Technology for Decarbonization) ได้ถูกรวบรวมและสรุปใน White Paper จากผู้จัดงาน (บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด มหาชน) ที่ได้ส่งมอบให้ท่านนายกรัฐมนตรีในงาน ESG Symposium 2024 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา

        ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พร้อมร่วมขับเคลื่อน Green Transition นี้ภายใต้โครงการวิจัยเรื่องการขับเคลื่อนการลดการปล่อยคาร์บอนของบริษัท SCGJWD Logistics ที่ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ประจำปีงบประมาณ 2567 และมี บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทเอกชนผู้ร่วมทุนซึ่งผลลัพธ์จากงานวิจัยจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ 

== 𝐖𝐞 𝐚𝐢𝐦 𝐭𝐨 𝐭𝐮𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐬𝐞𝐚𝐫𝐜𝐡 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐥-𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐬𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬 ==

ศูนย์ LogSyS ขอแสดงความยินดีกับสมาชิกศูนย์ ที่ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และร่วมทุนวิจัยโดย บริษัท SCGJWDLogistics Pubilc Company Limited

  • Date: 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
  • Venue:
  • Organizer: หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
    Program Management Unit Competitiveness (PMUC) และ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด
    (มหาชน) SCGJWD Logistics Public Company Limited

        ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขอแสดงความยินดีกับ สมาชิกศูนย์ที่ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ภายใต้แผนงาน N11 (S1P6) พัฒนาเทคโนโลยีและระบบการบริหารจัดการสำหรับ ระบบโลจิสติกส์ของประเทศที่ทันสมัยและได้มาตฐานสากล ประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมี บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทเอกชนผู้ร่วมทุนวิจัย มีระยะเวลาดำเนินงาน 12 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ถึงเดือน 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568 งบประมาณรวม 4.13 ล้านบาท โดยมี รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการ ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน เป็นหัวหน้าโครงการ

 โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนที่นำทางและกลยุทธ์สำหรับการขับเคลื่อนการลดการปล่อยคาร์บอน (Develop decarbonization roadmap and strategies) ของบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้ในการวางเป้าหมายและแผนการดำเนินงานขององค์กร และ ขยายผลไปยัง supply chain network ต่าง ๆ ของ บริษัท รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายขององค์กรที่ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกใน อุตสาหกรรมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ (International network engagement) และ เตรียมความพร้อมของบริษัทในการเข้าร่วมประเมิน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI)

         ซึ่งโครงการวิจัยนี้จะเป็นโครงการวิจัยที่สนับสนุนเป้าหมายของบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ในการได้รับการจดทะเบียนในดัชนี DJSI ภายในปี 2027 (ดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI) คือ “ดัชนีหุ้นยั่งยืนระดับโลก” ของ S&P Global ที่ใช้ประเมินผลการดำเนินงานของธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในระดับนานาชาติ) , ลด GHG emissions ลง 40% ภายในปี 2030 และ Net Zero Emissions ภายในปี 2050 โดย บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (SCGJWD) วางแผนจะผู้นำ ในการสนับสนุนการรายงานผล End-to-End Supply Chain Emissions ตามกรอบการคำนวณ GLEC (Global Logistics Emissions Council) Framework และ ISO 14083 แก่ Supply Chain Network ของบริษัท ซึ่งจะ ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถรายงาน GHG Emissions Scope 3 ได้อย่างสมบูรณ์เพื่อสนับสนุนเป้าหมายและการ ดำเนินงานเพื่อเข้าสู่ Net Zero Emissions ของ Supply Chain Network ของบริษัท

        ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำของประเทศไทยและภูมิภาค ASEAN เพื่อเป็น ส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ตาม ปณิธานหลักของศูนย์ คือ “We aims to turning research into real-world solutions”

== 𝐖𝐞 𝐚𝐢𝐦 𝐭𝐨 𝐭𝐮𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐬𝐞𝐚𝐫𝐜𝐡 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐥-𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐬𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬 ==

ศูนย์ LogSyS ขอแสดงความยินดีกับ ผู้อำนวยการศูนย์ เนื่องในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น “ที่ปรึกษาคณะกรรมการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สายงานอาเซียนและโลจิสติกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วาระปี2567-2569″

  • Date: 25 กรกฎาคม พ.ศ.2567
  • Venue:
  • Organizer: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

       ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน (LogSys) คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขอแสดงความยินดีกับ รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น “ที่ ปรึกษาคณะกรรมการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สายงานอาเซียนและโลจิสติกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วาระ ปี 2567-2569″ โดยคณะกรรมการชุดนี้มีเป้าหมายและแผนการทำงานเพื่อพัฒนา ส่งเสริม และผลักดัน โครงการและ นโยบายต่าง ๆ เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้ก้าวเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค (Logistics Hub) และสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ โดย รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต และ ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพ พลายเชนอย่างยั่งยืน จะมีบทบาทหลักในการให้คำปรึกษาแก่คณะกรรมการชุดนี้ใน เป้าหมายการพัฒนาและส่งเสริม กระบวนการโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Logistics) เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกจาก อุตสาหกรรมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ของไทย ซึ่งเป็นงานวิจัยหลัก (Core research theme) ที่ศูนย์การจัดการโลจิ สติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัย และให้คำปรึกษาแก่ภาคเอกชนและบริษัทขนส่ง สินค้า และโลจิสติกส์ชั้นนำของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท SCGJWD Logistics Company Limited เป็นต้น นอกจากนี้ ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนยังเป็นคู่ความร่วมมือหลักของ Smart Freight Center (SFC) ประเทศ Netherlands ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายในการจัดทำ GLEC (Global Logistics Emissions Council) Framework สำหรับกรอบการคำนวณ การรายงานผล และการทวนสอบก๊าซ เรือนกระจกจากกิจกรรมการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ (Transport chain operations emissions) ตลอดห่วงโซ่อุปทาน (End-to-End supply chain) ในระดับนานาชาติที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกและปัจจุบันกรอบการคำนวณนี้ได้ถูกพัฒนา เป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณ Logistics and Transport GHG Emissions ของ ISO14083:2023 (Quantification and reporting of GHG Emissions from transport chain operations) ฉบับใหม่ล่าสุด

        โดย รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน ได้กล่าวว่า ตนเองมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสและความไว้วางใจจากสภาอุตสาหกรรมสายงานอาเซียนและโลจิสติกส์ในการทำ หน้าที่นี้และเป็นโอกาสดีที่ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนจะได้ขยายผลการทำงานเพื่อร่วม ขับเคลื่อนพันธกิจหลักของสภาอุตสาหกรรมในการลดการปล่อยคาร์บอนจากอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ของ ประเทศไทยเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินงานเพื่อเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และ การ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ของอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ของประเทศไทย ต่อไป

== 𝐖𝐞 𝐚𝐢𝐦 𝐭𝐨 𝐭𝐮𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐬𝐞𝐚𝐫𝐜𝐡 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐥-𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐬𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬 ==

admin

Researcher: 

  • รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต – มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (หัวหน้าโครงการวิจัย)
    Associate Prof. Dr. Janya Chanchaichujit – Prince of Songkla University (Project Leader)
  • ดร.สุริยันต์ จอมธนชัย – มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
    Suriyan Jomthanachai – Prince of Songkla University
  • ดร.ณัฐยา ยวงใย-มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
    Dr. Nuttaya Yuangyai– Prince of Songkla University
  • น.ส.กันต์ฤทัย ชาญชัยชูจิต – มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
    Kanruthai Chanchaichujit– Prince of Songkla University,
  • Associate Prof. Dr. Sreejith Balasubramanian -Middlesex University, Dubai, United Arab Emirates
  • Associate Prof. Dr. Wai Peng Wong- Monash University Malaysia

Funded by:  

  • หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
    Program Management Unit Competitiveness (PMUC)
    และ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)
    SCGJWD Logistics Public Company Limited

Duration:  

  • กรกฎาคม พ.ศ. 2567 – มิถุนายน พ.ศ. 2568
    July 2024 – Jun 2025

Status:  On-going

Abstract:

            โครงการวิจัย เรื่อง การขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัท SCGJWD Logistics (Decarbonizing SCGJWD Logistics) เป็นโครงการภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ประจำปีงบประมาณ 2567 และมี บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทเอกชนผู้ร่วมทุน โครงการนี้มี รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน (LogSys PSU) คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย โดยโครงการวิจัยนี้มีระยะเวลาดำเนินการ 12 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 ถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568

         อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์เป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emissions) สูงถึงร้อยละ 8-10 ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด (International Transport Forum Outlook, 2021) และจากการศึกษาของ International Transport Forum ได้มีการคาดการณ์ว่าปริมาณการขนส่งสินค้าจะเพิ่มขึ้นประมาณสามเท่าภายในปี ค.ศ. 2050  ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมขนส่งและ    โลจิสติกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 หากอุตสาหกรรมนี้ยังไม่มีการดำเนินงานเพื่อการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ดังนั้น แนวทางและการดำเนินงานเพื่อการลดการปล่อยคาร์บอนจากอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน จากความท้าทายดังกล่าวจึงเป็นที่มาของโครงการวิจัยนี้ ดังนั้น โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) จัดทำแผนที่นำทางและกลยุทธ์สำหรับการขับเคลื่อนการลดคาร์บอน  (Develop decarbonization roadmap and strategies) ของบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้ในการวางเป้าหมายและแผนการดำเนินงานขององค์กร 2) จัดทำรายงานการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกของบริษัท 3) ขยายผลการจัดทำแผนที่นำทางและกลยุทธ์การลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization roadmap and strategies adoption for supply chain network) จากกิจกรรมการดำเนินงานด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ไปยัง Supply Chain Network ของบริษัทผู้ร่วมทุน 4) สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายขององค์กรที่ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ (International network engagement) และ 5) เตรียมความพร้อมของบริษัทผู้ร่วมทุนในการเข้าร่วมประเมิน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI)

– สำหรับข้อมูลของโครงการสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ รศ. ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต หัวหน้าโครงการ –

ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนเข้าร่วมเป็นวิทยากรในงานประชุมวิชาการระดับโลกด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน Global Sustainable Development Congress (GSDC) 2024 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร

  • Date: 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567
  • Venue: ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร
  • Organizer: ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ เครือข่ายวิชาการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย (SDSN Thailand)
  • Link Session Speaker:  Agenda | Global Sustainable Development Congress 2024 (timeshighered-events.com)

       ศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ เครือข่ายวิชาการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย (SDSN Thailand) ได้จัดการบรรยายในหัวข้อ Empowering sustainable futures: The Logistics Academy’s role in driving decarbonization and global collaboration ในงาน Global Sustainable Development Congress (GSDC) 2024 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร จัดโดย Times Higher Education และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมผู้เชี่ยวชาญ นักคิด และนักนวัตกรรมระดับโลก หารือและแบ่งปันวิธีการแก้ปัญหาด้านความยั่งยืนโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของสถาบันการศึกษากับการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

       ในการบรรยายครั้งนี้ รศ. ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้นำเสนอกรณีศึกษาของความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา (Academic) โดยเฉพาะบทบาทในงานด้านวิจัย (Research) และการส่งเสริมการเรียนรู้รูปแบบใหม่ๆ (Flexible Mode of Learning) ผ่านการทำงานร่วมกับภาคเอกชน (Private Sector) และ Stakeholder อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยยกตัวอย่างแนวคิดในการจัดตั้ง Logistics Academy ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ บริษัท SCGJWD Logistics ในการขับเคลื่อนการลดการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน (Logistics and Transportation Decarbonization Initiatives) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกและเป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลก โดย Logistics Academy จะเป็น Platform ที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ (Educate and empower) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการสร้างนวัตกรรม (Foster Innovation) ผ่านการทำวิจัย (Research), การสร้างความร่วมมือ (Foster Collaboration) ผ่านเครือข่าย (Network and Engagement) และ การสร้างวัฒนธรรมในการตระหนักรู้ต่อแนวคิดด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Foster the Culture of Sustainability) ผ่านการอบรมและการทำกิจกรรมต่างๆ (Training, Workshop and Dialogue discussion)

       นอกจากนี้ รศ. ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ยังได้ยกตัวอย่างทักษะใหม่ที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ (New skills for the management of logistics decarbonization) เช่น ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (The appreciation of Climate Science), การวิเคราะห์และการบริหารจัดการกระบวนการที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Understanding GHG Process in Logistics), การจัดทำและการทวนสอบรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Measurement, Reporting and Verification of Logistics GHG Emissions) เป็นต้น

       รศ. ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้สรุปการบรรยายและฝากประเด็นทิ้งท้ายไว้ว่าการลดก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์เป็นสิ่งจำเป็นที่เร่งด่วนและต้องอาศัยการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder Collaboration) เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ร่วมกัน

== 𝐖𝐞 𝐚𝐢𝐦 𝐭𝐨 𝐭𝐮𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐬𝐞𝐚𝐫𝐜𝐡 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐥-𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐬𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬 ==

Photo Gallery :

การเข้าร่วมเป็นวิทยากรในการประชุมเชิงปฎิบัติการ National Capacity Building Workshop on “Enhancing energy efficiency of the freight transport sector in Asia and the Pacific” จัดโดย UNESCAP และ National Polytechnic University of Armenia ณ เมือง Yerevan ประเทศ Armenia

  • Date: 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
  • Venue: National Polytechnic University of Armenia ณ เมือง Yerevan ประเทศ Armenia
  • Organizer: UNESCAP และ National Polytechnic University of Armenia

       รศ. ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นวิทยากรในการประชุมเชิงปฎิบัติการ National Capacity Building Workshop on “Enhancing energy efficiency of the freight transport sector in Asia and the Pacific” จัดโดย UNESCAP และ National Polytechnic University of Armenia ณ เมือง Yerevan ประเทศ Armenia

      ซึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Enhancing energy efficiency of the freight transport sector in Asia and the Pacific ภายใต้การดำเนินงานของ United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific (UNESCAP) – Transport Division ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Efficiency) ของอุตสาหกรรมขนส่งสินค้า (Freight Transport) จากแนวทางต่างๆ เช่น การเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Modal Shift) และการใช้เทคโนโลยี (New technology) ด้านการขนส่งสินค้าเพื่อเป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (Policy Framework) เพื่อนำไปสู่การลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งสินค้าของประเทศในภูมิภาค Asia and the Pacific

    ในการบรรยายครั้งนี้ รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้บรรยาย ในหัวข้อ “Reducing carbon footprint in freight transportation: perspectives from ASEAN” ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการขนส่งสินค้าที่สูงถึง 8-10% ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยทั้งหมดทั่วโลก (Global GHG Emissions) และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกโดยมีการประมาณการว่าปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากการขนส่งและโลจิสติกส์จะเพิ่มขึ้นประมาณ 45% ภายในปี 2050 โดยเฉพาะจากการขนส่งทางถนน (Road Freight) ที่มีสัดส่วนปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงที่สุด 67% ตามด้วยการขนส่งทางเรือ (Sea Freight) 21% ทางอากาศ (Air Freight) 5% ทางราง (Rail Freight) 5% และ ทางเรือชายฝั่ง (Inland Waterways) ประมาณ 2% ตามลำดับ ประกอบกับแรงกดดันจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดังนั้นอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์จึงจำเป็นต้องมีมาตรการและแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะแผนงานการขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) จากอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ทั้งในระดับองค์กรและระดับประเทศ

     โดยในการบรรยายครั้งนี้ รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้นำเสนอตัวอย่างของมาตรการและแนวทางการลดการปล่อย GHG Emissions ของอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศต่างๆ ใน ASEAN รวมถึง แผนงานของประเทศไทย Thailand Logistics and Transportation Sector Pathway to Net Zero Emissions จาก Thailand Roadmap and NDC Action Plan Transportation Sector 2021-2030 ในการลดก๊าซเรือนกระจกลง 20% (GHG Emissions Reduction) ในปี 2030 และเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2065 โดยมีกลยุทธ์หลักๆ ประกอบด้วย Transport Demand Management, Modal Shift และ Improve Vehicle Efficiency ภายใต้กลไกการสนับสนุนระบบ GHG Emissions Measurement, Reporting, Verification (MRV) และ Regulation ที่เกี่ยวข้อง และการสร้างความร่วมมือของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของอุตสาหกรรมในการทำงานร่วมกัน (Collaboration)

    โดย รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้สรุปการบรรยายและฝากประเด็นทิ้งท้ายไว้ว่าการลดก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์เป็นสิ่งจำเป็นที่เร่งด่วนและต้องอาศัยการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder Collaboration) โดยเฉพาะภาครัฐในการสนับสนุนงบประมาณ เทคโนโลยี และ ผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ Shipper สามารถ ผลักดันการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านไปยังผู้ให้บริการขนส่ง (Carrier and Logistics Service Providers) โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง (Mode of Transportation) ไปยังรูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นรวมถึงการปรับโครงสร้างของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Network) เพื่อการลดการขนส่งและการใช้พลังงาน

== 𝐖𝐞 𝐚𝐢𝐦 𝐭𝐨 𝐭𝐮𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐬𝐞𝐚𝐫𝐜𝐡 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐥-𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐬𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬 ==

Photo Gallery :

ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนได้ร่วมเป็นวิทยากรในการเสวนา หัวข้อ “Feed the future strategies for lower carbon footprint” จัดโดย บริษัท ลิงก์ เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น

  • Date: 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
  • Venue: บริษัท ลิงก์ เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น
  • Organizer: บริษัท ลิงก์ เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น

       เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2567 รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ผู้อำนวยการศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ร่วมเป็นวิทยากรในการเสวนาหัวข้อ “Feed the future strategies for lower carbon footprint” จัดโดย บริษัท ลิงก์ เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น

       ในการเสวนาครั้งนี้ รศ.ดร.จรรยา ชาญชัยชูจิต ได้นำเสนอความท้าทายของประเด็นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่ทุกประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยให้ความสำคัญ (Global Agenda) ในแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emissions) เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก ซึ่งปัจจุบันประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมได้เป็นข้อกำหนดหรือกฎระเบียบต่างๆที่เกี่ยวกับการส่งออกของไทยที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของสินค้าเหล่านั้น เช่น มาตราการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ของสหภาพยุโรปที่ได้เริ่มแล้วในบางอุตสาหกรรมและจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี 2026 อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของไทย (Animal Feed) เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานอาหารโลก (Global Food Supply Chain) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อย GHG Emissions สูงและเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงกดดันในการลดการปล่อย GHG Emissions ทั้งจากภาครัฐ ผู้ผลิต ผู้จัดหาวัตถุดิบ และ ลูกค้า

       การเสวนาครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันครั้งแรกของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทย (Animal Feed)  เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) และที่สำคัญคือการเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้แก่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของไทย (Animal Feed) ในห่วงโซ่อุปทานโลก

== 𝐖𝐞 𝐚𝐢𝐦 𝐭𝐨 𝐭𝐮𝐫𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐫𝐞𝐬𝐞𝐚𝐫𝐜𝐡 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐫𝐞𝐚𝐥-𝐰𝐨𝐫𝐥𝐝 𝐬𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬 ==

Photo Gallery :